แท็คติครับมือบาเยิร์นของมอยส์ใช้ได้ผล

มันอาจจะไม่ได้สวยหรูนัก แต่แท็คติคของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก็ถือว่าได้ผลในเกมที่พบกับบาเยิร์น มิวนิค ในแชมเปี้ยนส์ ลีก
ช่วงเวลา 9 นาทีที่ทีมปีศาจแดงขึ้นนำ ถือเป็นช่วงที่เหมือนดินแดนแห่งความฝันสำหรับแฟนๆ เจ้าถิ่น และแม้ว่าบาเยิร์น มิวนิค จะสามารถตีเสมอได้สำเร็จ แต่โดยรวมแล้วก็ดูเหมือนว่า เดวิด มอยส์ จะเป็นผู้ชนะในเกมนี้อยู่ดี
การจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 กับทีมแชมป์ยุโรปน่าจะเป็นที่พอใจแล้วสำหรับกองเชียร์ปีศาจแดง แต่ด้วยประตูทีมเยือนที่ทีมเสือใต้ทำได้ ทำให้พวกเขากุมความได้เปรียบในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไป แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จำเป็นจะต้องบุกไปทำประตูที่อัลลิอันซ์ อารีน่า ให้ได้หากต้องการเข้ารอบ แต่จาก 90 นาทีเมื่อคืนนี้ก็แสดงให้เห็นแล้วว่าพวกเขาทำได้ดีพอในการหาโอกาสยิงประตูได้เช่นกัน
แดนนี่ เวลเบ็ค ได้หลุดไปดวลหนึ่งต่อหนึ่งกับ มานูเอล นอยเออร์ ในช่วงท้ายครึ่งแรก ซึ่งนั่นน่าจะกลายเป็นประตูขึ้นนำไปแล้ว เช่นเดียวกับในช่วงท้ายเกมที่ถ้าหากว่า ฆาบี มาร์ติเนซ ไม่ทำฟาวล์ใส่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ บางทีนั่นก็อาจจะเป็นจังหวะหลุดเดี่ยวอีกเช่นกัน
ตลอดเกมนั้น ทีมจากเยอรมันเป็นฝ่ายครองบอลได้อยู่เกือบตลอด แต่ก็ถูกบีบให้ต้องลองสับไกยิงจากนอกกรอบเขตโทษเป็นส่วนใหญ่ ประตูตีเสมอในนาทีที่ 67 ของชไวน์สไตเกอร์เป็นเพียงไม่กี่ครั้งที่พวกเขาเอาชนะแผงหลังเจ้าถิ่นในกรอบเขตโทษได้ ซึ่งการที่โอกาสของทีมเสือใต้มีน้อยแบบนี้คงต้องยกเครดิตให้กับแท็คติคของ เดวิด มอยส์
กุนซือชาวสก็อตเลือกที่จะใช้งานนักเตะมากประสบการณ์ แทนที่จะใช้ผู้เล่นหนุ่มๆ เขารู้ดีว่านักเตะอย่าง ไรอัน กิ๊กส์, เนมานย่า วิดิช และ ริโอ เฟอร์ดินานด์ สามารถรับมือกับแนวรุกของบาเยิร์น มิวนิค ได้เป็นอย่างดี
ในรายชื่อผู้เล่นตัวจริงไม่มีทั้ง แอดนาน ยานูซาย และ ชินจิ คากาวะ โดยในจำนวนดังกล่าวมีนักเตะถึง 6 คนที่เคยผ่านประสบการณ์ลงเล่นในนัดชิงชนะเลิศแชมเปี้ยนส์ ลีก มาแล้ว
สำหรับเวลเบ็คนั้น เขาเป็นนักเตะที่สามารถวิ่งทำลายแนวรับของบาเยิร์นเพื่อสร้างสรรค์โอกาสอันล้ำค่าได้ แต่โชคไม่ดีสำหรับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ที่การจบสกอร์ของเขานั้นไม่คมเพียงพอ และเขาก็ได้ขว้างโอกาสทองนั้นทิ้งไป
เกมการเล่นนั้นอาจจะไม่ได้ดูดีอะไรเลย แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื้อเชิญให้บาเยิร์นเปิดเกมบุกเข้าใส่ แต่ก็ไม่อนุญาตให้บุกเข้ามาในกรอบ 18 หลา
ทีมปีศาจแดงรอจังหวะเหมาะๆ เล่นงานทีมเยือน และก็มาได้ประตูขึ้นนำหลังเริ่มครึ่งหลังได้ 13 นาทีจากลูกโขกเตะมุมของ เนมานย่า วิดิช ทำให้โอลด์ แทรฟฟอร์ด มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที ถือว่าแผนการเล่นของมอยส์นั้นได้ผล และนั่นก็ทำให้ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องไปคิดทบทวนใหม่ในการดวลกันในเลกที่ 2
กุนซือปีศาจแดงยอมรับว่าในเกมนี้เขาต้องการเพียงแค่ให้ทีมยังคงมีโอกาสผ่านเข้ารอบอยู่ หลังจากที่ผ่านเลกแรกไปแล้วเท่านั้น ก็ต้องถือว่าเขาปิดภารกิจนี้ได้สำเร็จลุล่วง
SiR KeaNo

2001-2024 RED ARMY FANCLUB Official Manchester United Supporters Club of Thailand. #ThaiMUSC

Related Posts